ค้นหาบล็อกนี้

20 ธันวาคม 2551

แนวทางของการออกแบบองค์ประกอบทางทัศนะ

แนวทางของการออกแบบองค์ประกอบทางทัศนะ
สารสนเทศที่นำเสนอด้วยการมองเห็นหรืออ่าน เช่น ข้อความ ภาพนิ่ง วีดิทัศน์ ภาพเคลื่อนไหว นับเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้เกิดการปฏิสัมพันธ์กับผู้เรียน ดังมีแนวทางในการออกแบบ ได้แก่
1. ควรนำเสนอสาระพอควรในแต่ละหน้าจอ ไม่ควรบรรจุสาระแน่น เกินไป ทำให้ลดประสิทธิภาพในการเรียนรู้ ผู้เรียนต้องใช้เวลามากในการเรียนรู้ และทำให้ผู้เรียนยิ่งผิดพลาดมากขึ้น
2. กรณีที่ต้องมีการนำเสนอเนื้อหาที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก ควรเสนอสาระนั้นๆเป็นกลุ่มย่อยๆ และเป็นช่วงๆ ด้วยวิธีการนำเสนอเช่น สร้างหน้าจอซ้อน วินโดวส์แทรก หรือปุ่มสัญรูปให้ผู้เรียนกด
3. กรณีใช้กรอบวินโดวส์เพื่อรวมหรือแยกสารสนเทศออกจากกัน ในการนำเสนอ เพื่อวัตถุประสงค์ ได้แก่
3.1. ดึงความสนใจของผู้เรียนไปยังสาระบางอย่าง
3.2. เพื่อลดความแน่นของหน้าจอ
3.3. สร้างรูปแบบการนำเสนอ ให้ผู้เรียนคุ้นเคยกับสาระ ในตำแหน่งบนหน้าจอต่างๆ
4. ใช้ปุ่มที่สื่อความหมายเป็นรูปธรรม ง่ายต่อความเข้าใจ และจูงความสนใจผู้เรียน
5. ให้ใช้การนำเสนอด้วยรูปภาพ ไดอะแกรม และโฟล์วชาร์ต ในกรณีที่สามารถนำเสนอสาระเหล่านั้นในรูปแบบที่แสดงความสัมพันธ์ได้ การเสนอภาพ จะช่วยให้ผู้เรียนเห็นภาพรวม ง่ายต่อความเข้าใจและจำได้
6. เทคนิคที่ช่วยนิเทศก์ผู้เรียน
6.1. วางสาระ หรือ องค์ประกอบต่างๆ ในตำแหน่งที่คงที่
6.2. วางผังของหน้าจอ(เลย์เอ้าท์) ให้สม่ำเสมอในหน้าจอประเภทเดียวกัน
6.3. กำหนดรูปแบบของทัศนะบนหน้าจอให้คงที่ ถ้ามีความจำเป็นในการเปลี่ยน ควรทำการการชี้แนะให้ผู้เรียนตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงนั้น
6.4. ใช้ขนาดของ สี และรูปร่าง เป็น ตัวชี้แนะ
6.5. ใช้ป้ายหรือสัญลักษณ์บอกตำแหน่ง ทำให้ผู้เรียนจำได้ว่าศึกษาอยู่ที่ส่วนใด ผ่านมาจากส่วนใด และมีส่วนใดอีกบ้าง และจะไปยังส่วนนั้นๆ ได้อย่างไร ซึ่งป้ายหรือสัญลักษณ์บอกตำแหน่งนี้ควรมีให้อ้างอิงโดยง่าย ที่จะไม่ต้องให้ผู้เรียนเคลื่อนย้ายจากตำแหน่งที่เรียนอยู่ในปัจจุบัน
6.6. ให้มีมุมแบบนกมอง คือ สามารถมองได้ทั้ง ระยะไกล หรือ ใกล้จนเห็นรายละเอียด เพื่อให้ผู้เรียนได้ใช้เป็นกรอบอ้างอิง และให้ความรู้สึกว่าควบคุมได้ กรอบอ้างอิงนี้จะให้ผู้เรียนรู้ว่าตนเองอยู่ที่ใด มาจากที่ใด และจะสามารถไปยังที่ใดได้อีก การให้กรอบอ้างอิงนี้ผู้เรียนจะสามารถมุ่งเน้นอยู่กับเนือ้หาสาระในโปรแกรมการเรียน
7. เทคนิคในการกำหนดตำแหน่งสาระบนหน้าจอ
7.1. วางสาระสำคัญในตำแหน่งที่สำคัญหรือส่วนบนของหน้าจอ หลีกเลี่ยงการวางไว้ในตำแหน่งริม
7.2. แสดงสาระที่เปลี่ยนแปลงไประหว่างหน้าจอ ต่อ หน้าจอ เช่น เนื้อหาของการสอน ไว้บริเวณส่วนกลางของหน้าจอ
7.3. วางสาระที่บอกสิ่งที่แสดงอยู่ปัจจุบัน เช่น เมนู ไว้ในตำแหน่งที่คงที่
7.4. แสดงปุ่มการนำทางไว้ใกล้ขอบของหน้าจอ
8. เมื่อต้องการแสดงสาระสำคัญที่ต้องการดึงดูด หรือ นำสายตาผู้เรียน ให้ใช้เทคนิค เช่น
8.1. ลูกศร ป้ายชื่อ การบรรยาย
8.2. แยกสาระนั้นออกมาต่างหาก ในรูปวัตถุใดวัตถุหนึ่ง
8.3. ใช้วินโดว์สโผล่
8.4. ใช้สีหรือรูปร่างเข้าช่วย
8.5. ใช้การไฮไลต์สี ทำขอบ หรือ เส้นใต้
8.6. มีการแยกสีหรือชนิดของอักษร
8.7. ทำตัวกระพริบ
9. เทคนิคที่ช่วยในการชี้แนะสาระ
9.1. ใช้การกระพริบ กรณีที่จำเป็น หรือ ต้องการดึงความสนใจผู้เรียนให้เกิดขึ้นทันที
9.2. ระวังขอบให้อยู่ห่างจากวัตถุที่ล้อมรอบ
9.3. ให้ไฮไลต์หรือใช้สีสว่างบริเวณที่ต้องการเน้น หรือทำให้สีพื้นเบื้องหลังมืดลง
9.4. จำกัดให้การไฮไลต์ไม่เกิน 10% ของหน้าจอ
9.5. หลีกเลี่ยงการใช้ตัวชี้แนะมากเกินไปในแต่ละครั้ง

10. เทคนิคเกี่ยวกับสี
10.1. จำกัดจำนวนของสีบนหน้าจอแต่ละครั้ง การใช้สีมากเกินไปทำให้ลดความคุณภาพและความสวยงาม
10.2. ให้ใช้สีอักษรเข้มบนพื้นสีอ่อน สีฟ้าคือสีพื้นหลังที่ดีที่สุด แต่อย่าใช้สีน้ำเงินหรือฟ้าเป็นตัวข้อความ ขอบ เส้น หรือ สิ่งต่างๆที่มีขนาดเล็ก
10.3. ให้หลีกเลี่ยงการใช้ตัวชี้แนะ (cue) ที่ใช้ความแตกต่างของสีเท่านั้น อาจใช้รูปร่างประกอบด้วย ทั้งนี้เพื่อประโยชน์สำหรับผู้เรียนที่มีความพิการทางการเห็นสี

ขอขอบพระคุณ
รศ. ดร.สุกรี รอดโพธิ์ทอง
ผศ.ดร.ใจทิพย์ ณ สงขลา

ไม่มีความคิดเห็น: